วิธีการทำ Auto Report ของ Google Analytics ใน Spread Sheet
หลายๆ คนน่าจะเคยประสบปัญหาเรื่องการดึงรายงาน เพื่อมานำเสนอหัวหน้า หัวหน้าบางคนต้องการรายงานละเอียดเป็นรายวัน ซึ่งเอาเข้าจริง ถ้าดูผ่านหน้า Google Analytics มันก็ละเอียดอยู่แล้ว แต่มักจะดูไม่น่าพอใจสำหรับผู้ใหญ่ที่อยากจะดูข้อมูลที่มันถูกดึงมาแล้ว อีกทั้งมันยังทำให้เราดูโปรขึ้น
เจ้าเครื่องมือตัวนี้ เป็นเครื่องมือของ Google เองที่ทำออกมาให้ใช้ฟรีๆ ก็คือตัว Spread sheet
หลายคนคงไม่รู้ว่า เจ้าตัว Spread Sheet นั้นมันทำงานได้กว้างกว่า Excel มากมายนัก มันไม่ใช่เพียงตารางที่ใส่สูตรได้ แต่มันยังมีโปรแกรมเสริม หรือที่เรียกว่า Extension เพื่อให้ทุกคนทำงานบน Spread Sheet ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
วันนี้ผมจะพามารู้จักเจ้าโปรแกรมเสริม Google Analytics กันว่ามันพอจะทำอะไรได้บ้าง เรามาทำความรู้จักกับตัว Extension เสริมของตัว Google Analytics กันก่อน
ก่อนเริ่ม ทำให้แน่ใจว่า เราล็อกอิน Google Account อยู่ตัวเดียว เพื่อที่การดึงข้อมูลจะได้ไม่สับสนระหว่างทำงาน
เริ่มแรกเราก็เปิดตัว Spread Sheet มาปกติ
หลังจากนั้นก็ให้กดตรง Add on เพื่อติดตัว Extension ตัวใหม่เข้าไป แล้วหาคำว่า Google Analytics
หลังจากนั้นก็กดเพิ่มเข้าไปได้เลย เพราะตัวนี้เป็น Extension ฟรี ที่เปิดมาให้ใช้ได้สำหรับ Spread Sheet
หลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนการสร้าง Report ซึ่งก่อนจะสร้าง Report เราต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการที่จะรู้อะไร เพื่อที่จะดึง Report ได้ถูก อันนี้ผมส่ง Report เบื้องต้น เผื่อคุณจะลองเอาไปปรับใช้ในเว็บคุณ
หลังจากนั้นกดสร้าง Report ได้เลย
พอกดสร้าง เราก็ต้องใส่รายละเอียดต่างๆ เข้าไป เช่น ชื่อรายงาน Account และก็มี Matrix & Dimension
อธิบายเพิ่มเกี่ยวกับ Metrix กับ Dimension
Matrix คือ ค่าสถิติที่เราต้องการที่จะดู เพื่อวัดคุณภาพของเว็บไซต์ อย่างเช่น มีคนเข้าเท่าไหร่, เข้ามาแล้วดูอยู่หน้าเว็บนานมั้ย, เข้ามาแล้วดูเฉลี่ยกี่หน้า, มีคนเปิดดูแต่ละหน้าเป็นจำนวนเท่าไหร่ หรือภาษาอังกฤษก็เช่น session, pageview, average session duration, bounce rate เหล่านี้เป็นค่าสถิติที่เราเรียกว่า Metrix
Dimension คือ ส่วนซ้ายของทุก Report เป็นส่วนที่เราเอาไว้ใช้เปรียบเทียบให้เห็นภาพ และนำไปวิเคราะห์ข้อมูลได้เบื้องต้น ซึ่งตัวอย่างก็คือ อายุ, เพศ, แหล่งที่มาพวก Facebook หรือ Google, ที่อยู่ของคนที่เข้าเว็บไซต์ อะไรประมาณนั้น ชื่อภาษาอังกฤษก็อย่างเช่น Default Channel Grouping, Gender, Age, Location, Language, Device เป็นต้น
หลังจากนั้นเมื่อเรากดสร้าง Report แล้ว เราจะยังไม่เห็นอะไร เราจะเห็นชีสเปล่าๆ ที่มีข้อมูลบางอย่างขึ้นมานิดหน่อย จากที่เราเลือกเมื่อซักครู่นี้
หลังจากนั้นให้เราไปที่ Add-on และกด Run Report
:ซึ่งจะเห็นว่ามันมีทั้ง Run Report และ Schedule Report ซึ่งสามารถกดได้ทั้งสองตัว หลังจากนั้นเราก็จะได้ Report ดิบๆ มาอันนึง ซึ่งเป็นข้อมูลดูยาก ตอนหน้า เดี๋ยวผมจะมาว่าด้วยเรื่องการจัดการข้อมูลที่กระจัดกระจายให้เป็นระเบียบ รวมถึงวิธีการทำ Auto Report แบบละเอียดมาให้ชมกันในตอนที่ 2 ครับ
หมวดหมู่บทความ
บทความแนะนำ
- เช็คให้ดี เช็คให้พร้อม ก่อนลงโฆษณากับ Facebook
- 5 เทคนิคง่ายๆ ถ่ายภาพสินค้าให้ปัง ไม่ง้อสตูดิโอ
- ภาพบรรยากาศการอบรมหลักสูตร ” เปิด ร้านค้าออนไลน์ กับโครงการ Smart Thai Biz ครั้งที่2 “
- กฎเหล็ก Facebook TEXT 20% เช็คอย่างไร
- Google AdWords มีบริการอะไรบ้าง
- แนะนำเครื่องมือประเมิน Keywords ได้เหมือน Keywords Planner
- รู้ไหม? ฟังก์ชั่นบรอดแคสต์ทำได้บน Facebook แล้ว!
- วิธีการติด Code Remarketing ที่ Google Analytics
- “ทีสเปซ ดิจิตอล” จับมือยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซไทย “TARAD.com” พลิกโฉมธุรกิจออนไลน์ครบวงจร
- 5 ปัจจัยที่ทำให้ โฆษณาไม่ขึ้น (รวบรวมจากการคุยกับ Google)
บทความยอดนิยม
- Efra E-Business School โรงเรียนออนไลน์ที่คุณหรือใครๆ ก็เรียนได้ - 24,646 views
- ติดหน้าแรก Google ลงโฆษณาหน้าแรก Google แบบมีประสิทธิภาพ โดย TARAD.net - 22,541 views
- สร้างยอดขายเพิ่ม เติมฐานลูกค้าด้วย LINE@ - 18,948 views
- รับทำเว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ E – Commerce พร้อมโลโก้ และบริการครบวงจร โดย TARAD.net - 16,556 views
- Google Analytics รู้จักเว็บเราให้ลึกกว่าที่เคย ด้วยเครื่องมือวัดสถิติระดับโลกรู้จัก-เข้าใจ-ใช้เป็น ด้วยตัวเอง - 15,396 views
- กฎเหล็ก Facebook TEXT 20% เช็คอย่างไร - 14,330 views
- เทคนิคการสร้างโฆษณาออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จกับ Google AdWords - 13,584 views
- Facebook Shortcut : เปิดสูตรลัดขายออนไลน์ด้วยเฟสบุ๊ค - 12,328 views
- SEO ผลการค้นหาอันดับ 1 ของ google จะเป็นของคุณ - 9,400 views
- Tarad.net Blog - 8,307 views