(ตอนที่ 2) วิธีการทำ Auto Report ของ Google Analytics ใน Spread Sheet

By admin on January 11th, 2017 in บทความ / 2,304 views

หลังจากผมจบตอนแรกไปแบบค้างๆ คาๆ ยังไม่ได้มีเรื่อง Auto ซักที โดนหลอกให้อ่านหรือเปล่านะครับ ยังไงใครเข้ามาบล็อกนี้ย้อนกลับไปอ่านบทความเก่าก่อน ถึงเรื่องการสร้าง Report เพราะบทความนี้ผมจะลงลึกไปในเรื่องของการสร้าง Report แบบ Auto แล้วนะครับ

ตอนที่ 1 >>> https://www.tarad.net/blog/google-analytics-auto-report/

ตอนที่แล้วผมพูดถึงเรื่อง Extension เสริมที่อยู่ใน Google Chrome และวิธีการใช้เบื้องต้น สำหรับตอนนี้ผมจะอธิบายหน้าตาของ Report โดยละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะครับ

ระหว่างนี้ ให้เปิด Google Analytics และ Spread Sheet เปล่าๆ แล้วทำไปพร้อมกันเลยก็ได้นะครับ

เริ่มต้น ผมจะดึงข้อมูลจากหน้านี้เพื่อมาทำ Report เป็นหน้าตั้งต้น (ใครจะดึงหน้าอื่นก็ได้ ทำได้อิสระ)

auto report google analytics

ตัวรายงานที่หน้า Google Analytics เบื้องต้นที่ผมจะเอามาเป็นตัวอย่างในการดึงรายงาน ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณสามารถดึงหน้าอื่นได้

 

หลังจากนั้นก็ดึงรายงานตามที่ผมได้สอนมาในบทความก่อน หรือทำตามนี้ไปเลยก็ได้ครับ เดี๋ยวจะทวนให้ ทำไม่ยาก

slide3

กดตามนี้ไปได้เลยครับ ถ้านึกไรไม่ออก กรอกตามผมไปก่อนก็ได้ แต่ Account Property View ต้องเป็นของคุณเองนะครับ

 

ก็กรอกตามนี้ หรืออยากดูอย่างอื่นเพิ่มเติมก็กรอกเพิ่มไปได้เลย อย่าลืมว่า Metric คือข้อมูลตัวเลขที่เราต้องการจะดู ส่วน Dimension คือข้อมูลที่เราอยากรู้

ถ้ากลับไปดูรูปก่อนจะเห็นว่า สิ่งที่ผมต้องการดูคือข้อมูล Default Channel Grouping ผมก็กรอกส่วนนั้นไป ซึ่งในส่วน Dimension ที่เราต้องการนั้นให้ไปดูอ้างอิงจาก Google Analytics ก่อนก็ได้ เพราะ Dimension จะเขียนไว้บนหัวของตารางอยู่แล้ว

slide4

 

หลังจากที่เสร็จจากขั้นตอนก่อนหน้า เราก็จะได้หน้าตาของ Sheet มาประมาณนี้ ซึ่งผมขอแบ่งเป็น 3 ส่วนตามที่เห็นในรูป

Date – ส่วนแรกเป็นส่วนของวันที่เราต้องการจะดึง Report

  • โดยค่าเริ่มต้นจะอยู่ที่ 7 วันย้อนหลัง(ช่องที่มันกรอกอยู่แล้ว)
  • วันเริ่มต้นหรือวันสุดท้ายที่เราจะดึงได้เอง โดย Template ในการกรอกต้องเป็นตัวเลข “เดือน/วัน/ค.ศ.” ตัวอย่างเช่น ผมจะดึง Report ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ปี 2559 ผมต้องใส่ 12/01/2016
  • สามารถใส่วันล่วงหน้าได้ เช่นผมจะถึงรายงานถึงวันที่ 31 มกราคม 2560 (วันที่เขียนบทความวันที่ 11 มกราคม 2560) ก็สามารถใส่ล่วงหน้าได้เช่นกัน

Data – ส่วนข้อมูลที่เราต้องการจะดึงและดู

  • Metric เป็นข้อมูลที่เป็นตัวเลข
  • Dimension เป็นข้อมูลที่เราต้องการจะดู (เช่น วันที่, เพศ, ความสนใจ, อายุ, ช่องทางการเข้าเว็บไซต์ เป็นต้น)
  • ทั้งสองส่วนสามารถกรอกเพิ่มได้เอง โดยไปค้นหาว่าจะต้องกรอกยังไง ได้ที่ Dimensions & Metrics Explore

ก่อนที่จะพูดเรื่อง Filter เรามาลอง Run Report ดูกันก่อนดีกว่า เพื่อที่ผมพูดถึง Filter แล้วจะเห็นภาพมากขึ้น

slide6

 

กดตามรูปที่ผมส่งให้เลย ซึ่งถ้าผ่าน มันจะขึ้นเป็นสีเขียวๆ แต่ถ้าไม่ผ่านมันจะขึ้นสีแดง

slide7

 

หลังจากนั้นเราก็จะได้สถิติมาส่วนหนึ่ง

slide8

 

จะเห็นว่าข้อมูลที่ได้มา มันมารวมกันหมดทุก Channel ที่มีเลย ซึ่งข้อมูลนี้มันยังดูไม่สวย ผมจึงต้องใช้เครื่องมือ Filter เพื่อจัดข้อมูลให้เป็นระเบียบ

 

Filter – เป็นเครื่องมือเอาไว้แยก Dimensions ที่เราต้องการจะกรอง อย่างเช่นในรูปที่ผมสร้าง Report มานั้นจะเห็นว่ามันเอาทุก Channel ที่มีมาใส่ให้หมดเลย ดังนั้น ถ้าเราอยากจะดูข้อมูลที่แยกละเอียดไปอีก เราจึงต้องมีการกรอก

  • Filter ไว้สำหรับกรอง Dimension เพื่อแยกดูข้อมูล
  • การใส่ Filter เราจำเป็นจะต้องกรอกเอง แต่ไม่มีความยุ่งยาก ถ้าพร้อมจะทำความเข้าใจ

ตัวอย่างที่ผมจะทำให้ดู ผมจะทำการแยก Facebook Ads ออกมาเพื่อจะดูข้อมูลเฉพาะที่ผมลงโฆษณาอย่างเดียว

google-analytics-report-create

 

วิธีการใส่ Filter คือ

  • ให้ก็อปสิ่งที่เราต้องการจะ Filter ทั้งหมดมาใส่ที่ช่อง Filter
  • ใส่สิ่งที่เราต้องการจะ Filter ต่อท้ายไป โดยใส่เครื่องหมาย =@ คั่นระหว่าง Dimentions กับสิ่งที่เราต้องการจะ Filter ดังตัวอย่าง
  • รายละเอียดตัวคั่นต่างๆ อยากให้ลองเข้าไปศึกษาตามรูปนี้เลย เบื้องต้นใช้แค่ตัวที่ผมใช้ก็ได้ครับ

slide9

 

หลังจากนั้นก็จัดการ Run Report ก็จะได้ข้อมูลที่ถูกแยกประเภทไว้แล้ว และแบ่งเป็นรายวันไว้ด้วย

google-analytics-report-create

 

หลังจากนั้นเราก็จัดการใส่ Filter ไปให้ครบทุก Channel หรือทุกช่องทางที่เราต้องการ ตามแบบที่ผมแนะนำไป

screenshot-docs-google-com-2017-01-11-14-12-32

 

หลังจากนั้น เราก็จะได้ข้อมูลทั้งหมดมาอยู่ในมือ หลังจากนี้ผมจะสอนสองเรื่องสุดท้าย เป็นเรื่องสำคัญที่สุด คือเรื่องการจัดการข้อมูลและการทำ Auto Report เพื่อที่จะให้ Sporead Sheet ทำการดึงข้อมูลมาให้เราดูได้เองทุกวัน

การจัดการข้อมูลให้สวยงาม ผมจึงสร้าง Report ง่ายๆ มาเพื่อรองรับข้อมูลที่เราต้องการจะกรอก

screenshot-docs-google-com-2017-01-11-14-38-32

 

พอเราได้ตารางสวยๆ แล้ว หลังจากนั้นเราต้องเอาข้อมูลมาใส่ ลองทำตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ

google-analytics-report-create

โดยขออธิบายอย่างละเอียดอีกที อันนี้เป็นการใส่สูตรให้กับตาราง Spread Sheet เพื่อรองรับ Auto Report ที่เรากำลังจะสร้าง

  • ไปยังช่องที่เราต้องการจะกรอกตัวเลข ในที่นี้ก็ให้เป็นช่องแรก หลังจากนั้นก็พิมพ์เครื่องหมาย “=” ลงไป
  • หลังจากนั้นก็เอาเมาส์ไปชี้ที่ Facebook Ads หรือชีสที่เราต้องการจะดึงข้อมูล
  • จากนั้นก็คลิ๊กที่ช่องข้อมูลที่เราต้องการได้เลย เสร็จแล้วก็กดปุ่ม “ENTER” เท่านั้นก็เป็นการเสร็จสิ้น
  • กดที่ข้อมูลตัวแรกที่เราใส่ ตรงมุมขวาล่างของตาราง แล้วจัดการลาดคลุมให้ถึงวันที่ 31

screenshot-docs-google-com-2017-01-11-14-48-11

 

ทดลองทำให้ครบทุกช่อง

screenshot-docs-google-com-2017-01-11-14-52-09

เราก็จะเห็นข้อมูลคร่าวๆ สำหรับหน้าตา Report ที่เราสามารถดูได้เอง หรือสามารถส่งให้เจ้านายดูได้แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายเรื่อง Auto Report ที่จะทำให้เราไม่ต้องมานั่งกรอกรายละเอียดทุกๆ วัน วิธีการทำก็ง่ายๆ

google-analytics-report-create

 

  • ไปที่ Add-ons >>> Google Analytics >>> Schedule Report
  • หลังจากนั้นก็จะสามารถเลือกความถี่ได้ตั้งแต่รายชั่วโมง, รายวัน, รายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ในกรณีเลือกเป็นรายวัน ต้องเลือกว่าจะให้ดึง Report ช่วงเวลาไหน ผมแนะนำให้หลังเที่ยงคืนมาประมาณ 2-3 ชั่วโมง มันจะได้ข้อมูลในวันก่อนหน้าที่ครบถ้วน เพราะ Google Analytics นั้นเก็บข้อมูลไปกว่าจะแสดงผลใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงด้วยกัน

จบแล้วครับ สำหรับ How to ยาวๆ เรื่องแรกของผม ถ้าเป็นประโยชน์ก็กดแชร์ไปให้เพื่อนๆ เจ้านายก็กดแชร์ไปให้ลูกน้อง ลูกน้องก็อาจจะแค่เก็บไว้ เพื่อกั๊กเอาไว้ โชว์ความเทพของตัวเองอีกทีก็ไม่ห้ามนะครับ

บทความยอดนิยม