12 Thailand E-Commerce Trend 2020 โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
ภาพรวมอีคอมเมิร์ซไทยในปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีที่หลายธุรกิจแข่งขันกันอย่างดุเดือดและร้อนแรง แต่เริ่มที่จะมองเห็นโมเมนตัมของการทำธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยได้ชัดเจนมากขึ้นและลากยาวไปถึงปี 2563
ในปี 2563 เทรนด์ของอีคอมเมิร์ซไทยจะเป็นอย่างไร ผมอยากเตรียมพร้อมให้กับคนที่ทำธุรกิจและคนที่ต้องการที่จะปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2563 จะมีอยู่ประมาณ 12 เทรนด์ใหญ่ ๆ คือ
1.JSL Marketplace เริ่มทำรายได้ให้เห็นแล้ว ปี 2563 จะเป็นปีที่ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ (J=JD Central, S=Shopee, L=Lazada) เริ่มทำกำไรมากขึ้น จริง ๆ เราเริ่มเห็นกันตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้วว่า Shopee เริ่มเก็บค่าคอมมิชชั่น ค่าบริการต่าง ๆ แล้ว ในขณะที่ Lazada เองเก็บค่าคอมมิชชั่นมาพักใหญ่ ทุกคนกำลังเริ่มปรับตลาด และมีคนเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น
เมื่อคนเริ่มติดแล้ว ปี 2563 จะเป็นปีที่ผู้ให้บริการเหล่านี้จะทำรายได้ โดยจะมาจากการเก็บค่าคอมมิชชั่น ค่าโฆษณา ฯลฯ จะเริ่มเห็นว่ามีการเก็บค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของ JSL มากขึ้น
2.สงคราม E-Wallet แข่งกันดึงเงินลงกระเป๋า จากปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าธุรกิจ E-Wallet เริ่มมีการตั้งไข่ ฉะนั้น ในปี 2563 E-Wallet จะเติบโตมาก
จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าในไตรมาสแรกของปี 2562 การใช้งาน e-Money มีปริมาณการใช้งานทั้งสิ้น 473.27 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่า 67 พันล้านบาท ส่วนปี 2561 มีปริมาณการใช้ 1,510.84 ล้านรายการ มูลค่า 209 พันล้านบาท เติบโตจากปี 2560 ที่มีการใช้งานเพียง 1,272.22 ล้านรายการ มูลค่า 126 พันล้านบาท เรียกได้ว่าสงคราม E-Wallet ในเมืองไทยมาถึงแล้ว
ผมแบ่งรูปแบบ E-Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิทัลออกเป็น 4 รูปแบบคือ
- Pure Wallet คือเกิดมาเพื่อเป็นวอลเล็ตโดยเฉพาะ เช่น True Money, Rabbit Line Pay (mPay), xCash, Dolfin, Blue Pay สำหรับปีนี้กลุ่ม Pure Wallet น่าจะมีการฟาดฟันกันหนักมากขึ้น
- E-Commerce Wallet เป็นวอลเล็ตของผู้ที่ให้บริการออนไลน์อยู่แล้วและขยับมาทำวอลเล็ตเพิ่มขึ้นด้วย เช่น Lazada Wallet, AirPay (Shopee), Grab Pay, Get Pay บรรดาอีคอมเมิร์ซวอลเล็ตจะแข่งกันหนักมากขึ้น เพราะทุกคนจะพยายามจะดึงเงินเข้ามาอยู่ในวอลเล็ตของตนเอง เช่น จะมีโปรโมชันอย่างส่วนลดต่าง ๆ หากลูกค้าจ่ายผ่านวอลเล็ตของตน
- Bank Wallet หรือ Mobile Banking เป็นกลุ่มที่น่าสนใจมากและมีความได้เปรียบ เพราะหลาย ๆ คนจะใช้บัญชีธนาคารสำหรับรับเงินเดือน ฉะนั้นเงินจะถูกกองไว้อยู่แล้วในบัญชี และคนอาจจะไม่โอนออกไปที่วอลเล็ตอื่นเท่าใด กลุ่มนี้เหมือนเป็นกระเป๋าหลักและยังมีดอกเบี้ยให้อีก จึงมีความได้เปรียบกว่ากลุ่มอื่น อีกทั้งธนาคารเองยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่อง
- Mobile Device Wallet เช่น Samsung ก็มี Samsung Pay หรือนาฬิกา Fitbit เองก็มี Fitbit Pay สงคราม Wallet จึงน่าจะดุเดือดอย่างแน่นอน
3.สงครามของบริษัทขนส่งสินค้า (E-Logistic) ในปี 2562 นั้นก็เริ่มเห็นกันได้ชัดแล้ว ตอนนี้บริษัทขนส่งที่โฟกัสไปที่ออนไลน์นั้นมีมากเป็นสิบบริษัท หลายบริษัทเพิ่งเปิด หลายบริษัทมาจากจีน ผมลองเก็บข้อมูลผลประกอบการของบริษัทขนส่ง Logistic ในประเทศไทยมาเปรียบเทียบกัน พบว่าไปรษณีย์ไทยยังครองแชมป์ทำรายได้สูงสุด กำไรมากสุด ทุนจดทะเบียนมากสุด และเปิดให้บริการนานสุด ส่วนบริษัทที่ขาดทุนมากที่สุดก็คือ J&T Express บริษัทที่เพิ่งเปิดให้บริการล่าสุดปีกว่า ๆ คือ Best Inc.
สำหรับปี 2563 บอกได้เลยว่าจะมีบริษัทขนส่งผุดขึ้นมาอีกมาก ยังไม่รวมพวก Grab Express หรือ GET Express ซึ่งเริ่มกระโดดเข้ามาทำบ้างแล้ว ต่อไปการส่งของจะง่ายมากขึ้น เมื่อปีที่แล้วเราอาจพูดถึง same day delivery แต่เดี๋ยวนี้การส่งของภายในวันเดียวเป็นเรื่องปกติ ต่อไปจะเป็นการส่งภายใน 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
4. ธุรกิจที่ให้บริการเก็บ-แพ็ก-ส่งสินค้า (Fulfillment) มาแรง คนจะไม่ค่อยแพ็กหรือเก็บสินค้าเองแล้ว จะมีบริการพวก fulfillment เริ่มให้บริการเยอะขึ้น คนจะเริ่มใช้บริการ outsource คือจ้างแวร์เฮ้าส์ จ้างคนแพ็กของหรือส่งของ ผมบอกได้เลยว่าปีนี้จะชัดมากขึ้นอีก สำหรับ e-Commerce Fulfillment ในเมืองไทยอาจมีอยู่ไม่เยอะมากนัก เช่น Siam Outlet, MyCloud Fulfillment นอกจากนี้บริษัทขนส่งหลายเจ้าก็เริ่มมาทำ Lazada ก็มี fulfillment เป็นของตัวเอง
5.Brand จะกระโดดเข้าสู่ออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพราะการมาของ Mall ต่าง ๆ เช่น Shopee Mall, LazMall และ JD Central เองที่เน้นสินค้าแบรนด์ ดังนั้น แบรนด์จะกระโดดเข้ามาขายออนไลน์มากขึ้น ๆ ส่งผลกระทบต่อบรรดายี่ปั๊ว ซาปั๊ว หรือบรรดาตัวแทนสินค้า เพราะผู้ผลิตสินค้าหรือโรงงานเริ่มขายตรงกับผู้บริโภคเอง
6.การค้าข้ามประเทศ Cross Border เติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งการขายข้ามประเทศจะแบ่งเป็น 2 แบบคือ Inbound Cross Border สินค้าที่มาจากต่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่อยู่ใน 3 มาร์เก็ตเพลสดังของไทยจะมีประมาณ 135 ล้านชิ้นหรือราว 77% สินค้าที่เป็นของผู้ค้าไทยประมาณ 39 ล้านชิ้นหรือราว 23% เทรนด์ตอนนี้จะเริ่มชัดแล้วว่าสินค้าจีนเริ่มบุกเข้ามามากขึ้น และเริ่มส่งเร็วมากขึ้นด้วยการเปิด EEC ซึ่งผมมีโอกาสได้เข้าไปคุยกับ EEC ก็เริ่มทราบว่าทาง EEC เองก็มีความกังวลในเรื่องการจัดการ และพยายามที่จะคุยกับจีนในแง่ของการส่งออกโดยอาศัย Infrastructure ของเขา
อีกเรื่องที่รัฐบาลต้องเน้นก็คือ Outbound Cross Border การนำสินค้าออกทางออนไลน์ ตอนนี้มีหลายมาร์เก็ตเพลสอย่าง Amazon, eBay, Wish, Rakuten และ Alibaba เป็นช่องทางที่สามารถเอาสินค้าไทยออกไปขายต่างประเทศได้
อย่างที่ทราบกันดีว่าตัวสินค้าไทยนั้นคุณภาพดีอยู่มาก แต่กลไกหรือวิธีการในการส่งออกเรายังไม่มีตัวช่วยมากเท่าไหร่ ผมจึงมองเห็นว่าเทรนด์ในปีนี้ คนที่จะนำสินค้าไทยออกไปขายต่างประเทศก็จะเริ่มมีจำนวนมากขึ้น ที่สำคัญรัฐอาจต้องเข้ามาร่วมมือกับกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้และเป็นผู้ประกอบการไทยด้วยโอกาสจึงจะมีเพิ่มมากกว่า
7.Social Commerce ยังโตทะลุ เม็ดเงินมหาศาลจากสื่อโฆษณาออนไลน์จะเทลงมาในโซเชียลมีเดียมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปีที่ผ่านมามียิงการโฆษณาบนเฟซบุ๊กเดือนละเป็นล้านบาท ยิงไปแล้วยอดขายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้โซเชียลคอมเมิร์ซโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้ต่อเนื่องไปถึงเทรนด์ต่อไป
8.ปีของ Live & Conversational Commerce การค้าแบบไลฟ์และแชทจะมาจริง ๆ แล้ว ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า Lazada มีไลฟ์สดขายของ Shopee ก็มีไลฟ์ขายของ ทุกคนมองการทำไลฟ์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขายของออนไลน์ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ปีนี้เราจะเจอแพลตฟอร์มเพื่อการไลฟ์ขายของที่สามารถเก็บเงินได้เลย และมีการทำระบบการจัดการขายของบนไลฟ์อย่างเดียว
9.ข้อมูล E-Commerce นำไปสู่ธุรกิจอื่น ต่อไปคนที่ทำอีคอมเมิร์ซหรือคนที่มีข้อมูลทั้งหมดจะนำไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวว่า Lazada จับมือกับ KBank มีการปล่อยกู้ หรือ SCB จับมือกับ GET มีการปล่อยกู้เช่นกัน ฯลฯ คนมี data มากขึ้นก็นำไปสู่การปล่อยกู้ได้มากขึ้น ทั้งปล่อยเองและปล่อยผ่านแบงค์ จะเห็นว่า data จะถูกนำมาใช้มากขึ้นในปีนี้
10.ยุครุ่งโรจน์ของ E-Commerce เฉพาะทาง หรือ Vertical E-Commerce เพราะเราคงไปสู้มาร์เก็ตเพลสใหญ่ ๆ ที่เป็น Horizontal E-Commerce ไม่ได้ ฉะนั้น อีคอมเมิร์ซอย่าง Konvy มาร์เก็ตเพลสขายเครื่องสำอาง Pomelo มาร์เก็ตเพลสที่ขายสินค้าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่น BUILK.com มีมาร์เก็ตเพลสที่ชื่อว่า Yello ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง NocNoc ขายเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ อีคอมเมิร์ซเฉพาะทางจะเริ่มโตมากขึ้น
11. Omni Channel มาแล้วของจริง ออนไลน์กับออฟไลน์ทุกช่องทางจะประสานเข้าด้วยกันอย่างเห็นได้ชัด
12. ปีที่กฎหมายด้านดิจิทัลมาครบชุด กฏหมาย 6 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับ Digital การค้าออนไลน์
- พ.ร.บ. ภาษีอีเพย์เมนต์ เริ่มมีการตรวจสอบข้อมูล การโอนเงินต่าง ๆ รวมถึงจำนวนครั้งที่โอนแล้ว
- พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ต่อไปนี้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างจะมีกฎหมายรองรับ จริง ๆ มีมานานแล้วแต่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น
- พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีมานานแล้วและมีการปรับปรุงเช่นเดียวกัน
- พ.ร.บ. คุุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาแล้วจริง ๆ
- พ.ร.บ. ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่มอบอำนาจให้กับภาครัฐในการควบคุมความมั่นคงของประเทศ
- พ.ร.บ. ภาษี E-Business จะเป็นการเก็บรายได้จากธุรกิจต่างชาติ
เมื่อกฎหมายทั้ง 6 ฉบับนี้ทำงานครบ จะสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น บางอย่างก็เป็นข้อดี เช่น ภาษี E-Business ที่ต่อไปหากต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในไทยก็ต้องมีการเสียภาษี และจะทำให้เราได้เห็นตัวเลขสำคัญหลายอย่าง จึงอาจต้องมีการกลับมาคุยกันมากขึ้นในเรื่องของการปรับตัวเนื่องจากกฎหมายเหล่านี้
เทรนด์ใหญ่ ๆ ทั้ง 12 เทรนด์นี้จะมีผลกับธุรกิจของท่านอย่างมาก สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
หมวดหมู่บทความ
บทความแนะนำ
- ลงโฆษณาบน Google AdWords แล้วไปอยู่ตรงไหน
- Keywords แบบต่างๆ ใน Google Adwords
- ภาพบรรยากาศการอบรมหลักสูตร “อัพยอดขาย เพิ่มฐานลูกค้า 100% ด้วย Line@ ” รุ่นที่ 2
- ฟรี…!!! ข้อมูลการเข้าดูเว็บไซต์มหาศาล ที่ Google เปิดให้ดูแล้ววันนี้
- Google ทดสอบ โฆษณารูปภาพ บนผลการค้นหา (Image sitelink extension)
- Do and Don’t about Line@ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเกี่ยวกับไลน์แอด
- Chrome 55 ตัวใหม่ ไม่แสดงผลภาพเคลื่อนไหวจาก Flash Player
- อยากให้ลูกค้าคลิกใช่ไหม ลองใช้ Carousel Ads สิ
- ลงโฆษณา Google แต่ไม่มีเว็บไซต์ เรายินดีสร้างให้ ฟรี!!!
- วิธีการติด Code Remarketing ที่ Google Analytics
บทความยอดนิยม
Notice: Undefined offset: 0 in /local/vhosts/tarad-net/public/wp-content/themes/taradnet/sidebar-blog.php on line 39
Notice: Trying to get property of non-object in /local/vhosts/tarad-net/public/wp-content/themes/taradnet/sidebar-blog.php on line 39
- Efra E-Business School โรงเรียนออนไลน์ที่คุณหรือใครๆ ก็เรียนได้ - 24,646 views
- ติดหน้าแรก Google ลงโฆษณาหน้าแรก Google แบบมีประสิทธิภาพ โดย TARAD.net - 22,541 views
- สร้างยอดขายเพิ่ม เติมฐานลูกค้าด้วย LINE@ - 18,948 views
- รับทำเว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ E – Commerce พร้อมโลโก้ และบริการครบวงจร โดย TARAD.net - 16,556 views
- Google Analytics รู้จักเว็บเราให้ลึกกว่าที่เคย ด้วยเครื่องมือวัดสถิติระดับโลกรู้จัก-เข้าใจ-ใช้เป็น ด้วยตัวเอง - 15,396 views
- กฎเหล็ก Facebook TEXT 20% เช็คอย่างไร - 14,330 views
- เทคนิคการสร้างโฆษณาออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จกับ Google AdWords - 13,584 views
- Facebook Shortcut : เปิดสูตรลัดขายออนไลน์ด้วยเฟสบุ๊ค - 12,328 views
- SEO ผลการค้นหาอันดับ 1 ของ google จะเป็นของคุณ - 9,400 views
- Tarad.net Blog - 8,308 views